หลายเรื่องในชีวิตเหมือนปลูกต้นไม้ จะให้เติบใหญ่สวยงามต้องใช้เวลา ซึ่งกว่าจะสวยอาจต้องลองผิดลองถูก ล้มแล้วก็ลุกหลายรอบ ตัวเราเองรู้ดีว่ากำลังพยายามไปเพื่ออะไร (สิ่งนี้สำคัญ)
หากตอบตัวเองได้ว่าเหนื่อยตอนนี้เพื่อให้ไม้ต้นนี้เติบโตแล้วจะภาคภูมิใจ ต่อให้เหนื่อยก็สู้ อดทน และไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
ความอดทนก็สำคัญพอๆ กับการตอบตัวเองได้ว่าทำทำไม มันพาเราผ่านช่วงเวลายากๆ ไปเพราะรู้ว่าเราอดทนเพื่อคืนวันที่ดีกว่า--วันที่ต้นไม้ผลิดอกออกผล
บางหน การไม่บอกใครอาจทำให้เราทำสิ่งที่ตั้งใจได้ดีกว่า เพราะไม่กดดัน มีเพียงเราที่รู้ ค่อยๆ ก่อร่างฟูมฟักไป รอให้ 'ต้นติด' หรือ 'หยั่งราก' แข็งแรงพอแล้วค่อยบอกคนที่ปรารถนาดี เขาจะชื่นชมและมอบกำลังใจให้
ตอบตัวเองได้ว่าทำไปทำไม
อดทนในวันที่ยาก
เก็บงำในช่วงเริ่มเพื่อไม่กดดัน
ผิดก็เรียนรู้ ล้มก็ลุก
กว่าไม้งามจะเติบใหญ่นั้นใช้เวลาและอุตสาหะ ใครคนนั้นรู้ดีว่ามันไม่ง่าย แต่ใช่ว่าทุกคนจะเห็นใจ เข้าใจ ถนอมน้ำใจ คำติ วิจารณ์ ทำลายฝันบางครั้งก็บั่นทอน
ใจเย็นสักนิด เก็บความฝันเป็นความลับในช่วงต้น รอรากหยั่งลงดิน กิ่งก้านงอกงาม ใบผลิชอุ่ม วันนั้นเราค่อยบอกกล่าวก็ได้ว่า ต้นไม้แห่งความฝันของฉันหน้าตาแบบนี้
คนที่ตั้งใจปลูกต้นไม้มักแข็งแรงขึ้นพร้อมต้นไม้
ความฝันเติบโต เราก็เติบโต
ผ่านลมผ่านฝน... ใครไม่รู้ เรารู้
อาจไม่มีใครสังเกตความเปลี่ยนแปลง แต่ภายในตัวตนของนักปลูกฝันนั้นงอกงามผ่านอุปสรรคและเรื่องยากเสมอ
เหมือนรากใต้ดินที่คนอาจมองไม่เห็น
แต่สำคัญยิ่งกับไม้ต้นนั้น